The Tomorrow War (2021) ข้ามเวลาหยุดโลกวินาศ ซัพไทย
312 ดูหนังออนไลน์ The Tomorrow War ข้ามเวลาหยุดโลกวินาศ เป็นเรื่องราวของโลกปัจจุบันที่ได้รับการติดต่อจากโลกอนาคตในอีก 30 ปีข้างหน้า พวกเขาระบุว่ามวลมนุษยชาติกำลังจะสูญสิ้นเพราะการรุกรานของสัตว์ประหลาดต่างดาวที่บุกยึดครองโลก เลยต้องขอความร่วมมือจากคนในยุคปัจจุบัน เกณฑ์เป็นนักรบเพื่อวาร์บไปต่อสูญกับเหล่าสัตว์ประหลาดที่ไม่มีใครๆ รู้ข้อมูลเบาะแส อะไรเกี่ยวกับมันเลยแม้แต่น้อย แดน ฟอร์เรสเตอร์ อาจารย์สอนวิทยาศาสตร์ประจำอยู่ที่โรงเรียนมัธยม ได้รับหมายเกณฑ์ต้องร่วมเป็นนักรบเดินทางข้ามเวลาไป สู่สมรภูมิรบในปี 2051 กับภารกิจที่เขาก็ไม่คิดว่าจะมีโอกาสรอดชีวิตกลับมาได้ไหม
ในขณะที่องค์ประกอบของเนื้อเรื่องนี้ ก็มาพร้อมกับพวกสูตรสำเร็จของหนังที่ขายฉากแอคชั่นฟอร์มใหญ่แบบฮอลลิวูด ผสมผสานกับปมดราม่าที่เพิ่มเติมเข้ามาให้ความรู้สึก หลากหลายอารมณ์ ถือว่าเป็นสูตรสำเร็จที่ยังไงก็เข้าถึงคนดูได้เป็นอย่างดี แม้ว่าจะยังมีบางช่วง ที่เนื้อเรื่องดูออกจะ เนิบๆ ช้าๆ ไปสักหน่อย แต่จังหวะอะไรต่างๆ ในหนังเรื่องนี้ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ ไม่ถึงกับหน้าเกลียดซะทีเดียว
พระเอกเรื่อง The Tomorrow War ข้ามเวลาหยุดโลกวินาศ
เรื่องนี้ ได้พระเอกอย่าง คริส แพรตต์ นักแสดงหนุ่มที่แจ้งเกิดจาก Guardians of the Galaxy และ jurassic world ผลงานล่าสุดของเขาอย่างซีรีส์ที่กำลังจะเข้าฉายใน Amazon เรื่อง The Terminal List และตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะเตรียมออกไปทำสงครามกับเอเลี่ยนร้ายในหนังบู๊ไซไฟ The Tomorrow War โดยหนังจะออกฉายทาง แอมะซอน ไพรม์ ในวันที่ 2 กรกฏาคม 2022 นี้
รายละเอียดเกี่ยวกับหนัง
- ประเภท: แอคชั่น / ไซไฟ / ระทึกขวัญ
- ผู้กำกับ: คริส แม็คเคย์
- ความยาว: 138 นาที
- นักแสดงนำ: คริส แพรตต์, อีวอนน์ สตราฮอฟสกี, เจ.เค. ซิมมอนส์
คะแนน โดยรวม
เป็นหนังแอ็กชั่นไซไฟถล่มเอเลี่ยนอีกเรื่องหนึ่งที่สนุกโคตรๆ เป็นความบันเทิงในระดับสุดยอดของสตรีมมิ่งบน Amazon Prime ฉากแอ็กชั่นจัดเต็มแบบพีคแล้วพีคอีก เอเลี่ยนสุดโหดแถมมาเป็นฝูงแบบซอมบี้ สอดแทรกปมดราม่าครอบครัวได้ดี ตัวเรื่องมีปมเล็กๆ น้อยๆ สอดแทรกหลายอย่าง แล้วก็เก็บเคลียร์ได้หมดจรด ตัวละครทุกตัวมีประโยชน์กับเรื่องหมด มีการจำลองสถานการณ์เลวร้ายในสังคมเทียบเคียงกับสงครามจริงในโลก พูดถึงข้อดีในส่วนข้อเสียก็มีบ้าง เช่น เรื่องอาจจะดูพล็อตโหลเหมือนยำหลายเรื่องเข้าด้วยกันไปหน่แย อาจมีความเหมือน Edge of Tomorrow แต่ก็ยังมันส์ไม่แพ้กัน และไม่ใช่แค่ฉากแอ็กชั่น ตัวเรื่องก็มีการผูกปมดราม่ากับเส้นเวลาในแบบของตัวเอง อาจจะไม่ใหม่ แต่ก็ทำให้ตัวหนังมีอะไรดีๆ มากกว่าฉากบู๊ล้างผลาญแบบที่เห็น ส่วนตัวให้คะแนนที่ 8.5/10 และ rottentomatoes ให้ไป 76% และ IMDB 6.5/10 ครับ
